5 บ้านผีสิงเสมือนจริงสุดหลอน เชื่อมต่อเทคโนโลยีให้เข้ากับเทศกาลฮาโลวีน ด้วย Virtual Haunted



จากสถานการณ์ที่ทั่วโลกต้องพบเจอกับปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้การใช้ชีวิตหรือหรือกิจกรรมต่าง ๆ ทำให้สิ่งหล่านี้ได้รับการสนใจน้อยลงไปตาม ๆ กัน แต่จะเป็นอย่างไรเมื่อเทคโนโลยี Virtual Reality สามารถทลายกำแพงกั้นระหว่างผู้คน และ ความสนุกสุดหลอนของเทศกาลฮาโลวีนได้ สำหรับบทความนี้ any i มีเรื่องเล่า และ เรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับเทคโนโลยี Virtual Haunted ที่จะสามารถเชื่อมต่อคุณให้เข้ากับเทศกาลฮาโลวีนที่สัมผัสความขนหัวลุกด้วยตัวเอง แม้ตัวคุณจะนั่งอยู่ที่บ้าน 

เทคโนโลยี Virtual Haunted คืออะไร 

เทคโนโลยี Virtual Haunted หรือที่เรียกว่า “สถานที่ผีสิงเสมือนจริง” โดยการนำเทคโนโลยี Virtual Reality หรือ VR มาทำการจำลองสถานที่จริงให้เป็นรูปแบบเสมือนจริงผ่านมุมมองในรูปแบบ Virtual Tour ที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้ไปเยี่ยมชมด้วยตัวเอง สามารถรับประสบการณ์ความหลอนได้แบบ 360 องศา 

5 สถานที่ Virtual Haunted สุดหลอน

Winchester Mystery House 

เป็นคฤหาสน์หลังใหญ่ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1884 ที่ตั้งอยู่ ณ เมืองแซนโฮเซ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เรื่องราวลึกลับของคฤหาสน์สุดหลอนที่ต้องต่อเติมแบบไม่หยุดพักตลอด 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลายาวนานกว่า 36 ปี ซึ่งภายในบ้านมีห้องมากถึง 400 ห้อง! เรื่องราวเกิดจาก Sahra หญิงม้ายจากตระกูล Winchester เธอมีความเชื่อว่าการต่อเติมบ้านนั้นจะสกัดกั้นวิญญาณที่ตามมาเอาชีวิตให้หาตัวเธอไม่เจอ โดยคฤหาสที่ไม่หยุดต่อเติมหลังนี้ ได้ถูกนำไปทำเป็นภาพยนตร์ที่ชื่อว่า Winchester “คฤหาสน์ขังผี” อีกทั้งคฤหาสน์หลังนี้ก็ได้เปิดให้เข้าไปชมความแปลกปนหลอนของสถาปัตยกรรมที่ไร้แบบแผนทั้งในรูปแบบการไปเยี่ยมชมสถานที่จริงและในรูปแบบ Virtual Tour อีกด้วย ! เพื่อน ๆ คนไหนที่อยากชมความหลอนโดยไม่ต้องบินไปหลอนไกลถึงอเมริกา คลิกที่นี่่ เพื่อไปชมความยิ่งใหญ่ และ ลึบลับของบ้านหลังนี้ได้เลยค่ะ 

Pittock Mansion

คฤหาสน์หลังใหญ่ บรรยากาศดี ที่มีเรื่องราวลึกลับที่หาคำตอบไม่ได้นี้ ตั้งอยู่ ณ เมืองพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน สหรัฐอเมริกา คฤหาสน์ที่มีเรื่องราวลึกลับของคู่รักตระกูล Pittock ได้ซื้อคฤหาสน์หลังใหญ่โดยมีสถาปัตยกรรมการตกแต่งภายในอย่างสวยงาม และ คฤหาสน์หลังนี้สามารถมองเห็นวิวดีที่สุดในเมือง เรียกได้ว่าเป็นวิมานบนดินที่หลาย ๆ คนใฝ่ฝัน แต่เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จ สองสามีภรรยาก็ได้อยู่ชื่นชมคฤหาสน์หลังงามนี้ได้ไม่นานนัก Georgiana Burton Pittock (ภรรยา) ก็ได้เสียชีวิตไปเสียก่อน และในปีต่อมาเมื่อ Henry Pittock (สามี) ได้จากไป ทายาทของตระกูลก็ได้ทำการประกาศขายคฤหาสน์หลังนี้ทอดตลาด แต่กลับกลายเป็นว่าไม่มีใครสนใจซื้อ จนชาวเมืองได้รวบรวมเงินจำนวนหนึ่งมาซื้อและปรับปรุงคฤหาสน์หลังนี้เพื่อทำนุบำรุงเอาไว้ เป็นพิพิธภัณฑ์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมสถานที่อันสวยงามภายในเมือง ฟังมาถึงตรงนี้ก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่ทว่าหลาย ๆ คนที่ได้มาเยี่ยมชมคฤหาสน์หลังนี้กลับพบเจอเรื่องราวชวนหลอนอย่าง บางครั้งหน้าต่างก็เปิดปิดเองโดยไม่มีลมพัด หรือ ได้ยินเสียงฝีเท้าหนัก ๆ เดินอยู่ภายในตัวบ้าน มีคนพบเห็นภาพของ Henry เคลื่อนย้ายตำแหน่งการจัดวางในตัวบ้านโดยไม่ซ้ำกันเลยสักครั้ง ซึ่งดูเหมือนว่าสองสามีภรรยาคู่นี้จะยังคงวนเวียนอยู่ภายในคฤหาสน์ที่ตนเองตั้งใจสร้างเมื่อคราวที่ยังมีลมหายใจอยู่นั่นเอง

เพื่อน ๆ สามารถเข้าไปเยี่ยมชมคฤหาสน์ที่นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองผ่านเทคโนโลยี Virtual Reality (VR) คลิกที่นี่เลย เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม และ เรื่องราวความลึกลับที่ไม่สามารถหาคำตอบได้ ที่น่าสนใจอีกที่หนึ่งเลยทีเดียวค่ะ 

Eastern State Penitentiary

เรือนจำอีสเทิร์นสเตท ที่ภายนอกดูเหมือนปราสาทที่โดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมที่สวยงาม แต่กลับเป็นเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “คุกผีสิง” สถานที่สุดหลอนนี้ตั้งอยู่ภายในตั้งอยู่ในรัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยคุกแห่งนี้มีประวัติว่าเป็นคุกแห่งแรกที่เป็นต้นแบบของระบบการ ‘ขังเดี่ยว’ ฟังดูแล้วก็ดูเหมือนเป็นคุกที่ไม่มีอะไรน่ากลัว หรือ สยองขวัญเช่นเดียวกับสถานที่อื่น ๆ แต่ทว่ามีกฎระเบียบที่ไม่ให้นักโทษพูดคุยกับใคร หนทางที่จะคลายเครียดได้นั้นคือการออกกำลังกายเพียงคนละ 1 ชั่วโมงต่อวัน และ อนุญาตให้อ่านหนังสือได้เพียงเล่มเดียวเท่านั้น คือ พระคัมภีร์ และหากผู้ใดคิดที่จะกระทำการหลบหนีก็จะถูกจับแยกไปในส่วนที่ไม่มีแสงส่องถึง และ ถูกลงโทษด้วยวิธีสุดโหดต่าง ๆ อย่างเช่น โดนราดด้วยน้ำเย็น และปล่อยทิ้งเอาไว้ในคืนที่อากาศติดลบ หรือถูกมัดแขนขากับเก้าอี้ทิ้งไว้เป็นเวลาหลายวัน ด้วยเหตุนี้เอง แทนที่นักโทษจะรู้สึกสำนึกต่อการกระทำผิดที่ตนได้ก่อไว้ได้ กลับสร้างอาการหลอน อึดอัด ไม่เพียงแต่ตัวนักโทษเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบทางจิตใจ เจ้าหน้าที่เรือนจำก็ต่างพาจิตตกไปตาม ๆ กัน เมื่อเรือนจำแห่งนี้ปิดตัวลงและถูกทิ้งร้างเป็นเวลานาน กลับมีการรายงานว่า ได้ยินเสียงกรีดร้องอย่างโหยหวน เสียงฝีเท้าที่ไม่สามารถระบุที่มา เสียงกระซิบ รวมไปถึงมีมวลพลังงานความรู้สึกอันชวนขนหัวลุกอบอวนอยู่ในเรือนจำแห่งนี้ 

ต่อมาเรือนจำ Eastern State Penitentiary นี้ ได้กลายเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่มีการเปิดให้เข้าชมในช่วงเวลากลางวัน และจะเปิดให้บริการสำหรับคณะทัวร์ท้าผีในตอนกลางคืนเฉพาะช่วงเทศกาล Halloween อีกด้วย สำหรับใครที่อยากเข้าไปชมความหลอนของคุกผีสิงแห่งนี้ผ่านเทคโนโลยี VR 360 องศา คลิกที่นี่ ได้เลย บอกเลยว่าแค่เข้าไปก็รู้สึกได้ถึงความหลอนแล้วค่ะ 

Salem Witch Museum

พิพิธภัณฑ์ที่บันทึกหน้าประวัติศาสตร์การ ‘ล่าแม่มด’ สุดโหดนี้ ตั้งอยู่ที่ วอชิงตัน เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ถือเป็นเมืองที่เคยเกิดเรื่องราวที่สร้างความหลอน และ น่าหดหู่ อย่างการล่าแม่มดสุดโหด โดยในยุคนั้นมีความเชื่อว่าหากมีการเสียชีวิต หรือป่วย ของคนในครอบครัวรวมไปถึงสัตว์เลี้ยง อย่างไม่ทราบสาเหตุ นั่นคือการกระทำของแม่มด ซึ่งมีบุคคลที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดถึง 200 คน (โดยส่วนใหญ่นั้นเป็นผู้หญิง) หากใครที่เป็นผู้ต้องสงสัยว่าคือ แม่มด แต่ไม่ยอมรับสารภาพจะถูกจับมาขังและไต่สวนด้วยเครื่องมือทรมานร่างกาย จนทำให้หลายคนเลือกที่จะสารภาพว่าตนเองเป็นแม่มดดีกว่าต้องทนทุกข์จากการถูกเครื่องมือทรมาน และโทษของการเป็นแม่มดในยุคสมัยนั้นคือ ‘การถูกตัดสินประหารชีวิต’ ความน่าสยดสยองหรือความหลอน ณ สถานที่แห่งนี้ไม่ใช่เรื่องราวของแม่มดแต่อย่างใด กลับกลายเป็นเรื่องของการที่มีผู้บริสุทธิ์มากมายที่ถูกตัดสินจากเพื่อนมนุษย์ด้วยกันว่าเป็นแม่มด และต้องรับชะตากรรมความตายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ตนเองจะไม่ได้กระทำความผิดใดใดเลยก็ตาม 

โดยวันนี้ any i จะพาคุณไปชมพื้นที่ในหน้าประวัติศาสตร์การล่าแม่มดอย่างสุสาน ศาล เส้นทางจากคุกไปสู่พื้นที่ที่ใช้ประหารชีวิตแม่มดผ่านเว็บไซต์ Salem Witch Museum ที่ได้รวบรวมเส้นทางแผนที่ และ เรื่องราวในหน้าประวัติศาสตร์เอาไว้ในรูปแบบการเข้าไปเที่ยวชมผ่าน Google Map ในรูปแบบ Virtual Reality 360 องศา คลิกที่นี่ เพื่อเข้าชมได้เลยค่ะ 

The Paris Catacombs

อีกหนึ่งสถานที่สุดหลอนแห่งนี้ตั้งอยู่ใต้พื้นดินลึกลงไป 20 เมตร ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เป็นสุสานใต้ดินที่อัดแน่นไปด้วยโครงกระดูกกว่า หลายล้านชิ้น จากร่างที่ไร้วิญญาณกว่าหกล้านชีวิต ! โดยมีการนำโครงกระดูกมาวางเรียงจนกลายเป็นกำแพงกระดูกที่ชวนหลอน หลายคนที่ได้เข้าไปเยี่ยมชมสุสานใต้ดินแห่งนี้พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าบรรยากาศด้านล่างนั้น ชวนขนหัวลุก ไม่ว่าจะเดินไปจุดไหน ก็รู้สึกว่ามีดวงตานับพันกำลังจับจ้องอยู่ โดยสถานที่สุดหลอนนี้เปิดให้เพื่อน ๆ ได้เข้าไปเยี่ยมชมในรูปแบบ Virtual Reality 360 องศา คลิกที่นี่ เพื่อเข้าชมความหลอนที่อยู่ลึกลงไปใต้พื้นดินกันค่ะ ! 

หากเพื่อน ๆ คนไหนที่ได้เข้าไปเยี่ยมชมสถานที่สุดหลอนข้างต้นนี้อย่างเพลิดเพลินแล้วลองสังเกต รอบ ๆ ตัวดูว่ามีใครเข้ามาร่วมเยี่ยมชมประสบการณ์สุดหลอนนี้พร้อมกับคุณในค่ำคืนวัน Halloween นี้อยู่รึเปล่า? และ any i หวังว่าทุกคนจะได้รับประสบการณ์สุดหลอนจากเรื่องราวและสถานที่ที่เราได้รวบรวมมาให้ในวันนี้ หากใครชื่นชอบเรื่องราวสุดลึกลับปนขนหัวลุกแบบนี้อย่าลืมแชร์ไปให้เพื่อน ๆ ของคุณหลอนไปด้วยกันในค่ำคืนเทศกาลฮาโลวีน

สุขสันต์วันฮาโลวีนค่ะ