จะเป็นอย่างไรเมื่อเทคโนโลยีเสมือนจริง VR ไม่ได้อยู่แค่ในแวดวงเกมอีกต่อไป

หากเป็นเมื่อก่อนถ้ากล่าวถึงเทคโนโลยี VR แล้วหลายคนอาจนึกถึงการเล่นเกมเป็นส่วนใหญ่ ที่ช่วยให้เพลิดเพลินไปกับการเล่นในสภาพแวดล้อมที่เสมือนจริง แต่ในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีมีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง Virtual Reality หรือ VR จึงไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในอุตสาหกรรมเดียวแล้ว
บทความนี้ any i มีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับ เทคโนโลยีเสมือนจริง VR ที่อาจไม่ได้อยู่แค่ในแวดวงเกม อีกต่อไป เพื่อเป็นประโยชน์กับการทำธุรกิจมาแบ่งปันกัน
Virtual Reality (VR) หรือ เทคโนโลยีเสมือนจริง คืออะไร ?
คือ การจำลองสถานการณ์จริงออกมาในรูปแบบ 3 มิติที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตอบโต้ต่อสิ่งรอบตัวได้อย่างเสมือนจริง ซึ่งจำเป็นต้องสวมใส่อุปกรณ์ ที่เรียกว่าเรียกว่า แว่น VR หรือ VR Headset เพื่อเชื่อมต่อกับระบบคอมพิวเตอร์ ที่จำลองสภาพแวดล้อมให้มีความเหมือนจริง เปรียบได้ว่าเป็น การสร้างโลกเสมือนขึ้นมาอีกใบ โดยเราจะถูกตัดขาดออกจากสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน
ปัจจุบันเทคโนโลยี Virtual Reality (VR) นำมาใช้ประโยชน์ในด้านใดบ้าง ?
ในปัจจุบันนั้นศักยภาพของเทคโนโลยี Virtual Reality (VR) ไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่ในวงการเกม แต่ยังมีการขยายไปยังอุตสาหกรรมต่าง ๆ ดังนี้
1. ด้านการทหาร (VR in Military)

การนำเทคโนโลยี VR เข้ามาใช้ในการฝึกสอน (Training) นั้น ช่วยให้สามารถจำลองสถานการณ์จริงต่าง ๆ โดยใช้ในกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ นาวิกโยธิน และหน่วยยามชายฝั่ง ซึ่งข้อดีที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ
การจำลองสภาพแวดล้อมการฝึกที่อาจมีความเสี่ยงต่อชีวิต ให้มีความปลอดภัยต่อผู้ที่ฝึกได้ ในด้านอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากการฝึกฝนนั้นยังถูกนำมาใช้ในการรักษาโรคความเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญ (PTSD: Post-Traumatic Stress Disorder) สำหรับทหารที่กลับมาจากการรบและต้องการความช่วยเหลือในการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ชีวิตปกติ หรือเรียกว่า การบำบัดด้วยความเป็นจริงเสมือนจริง (VRET: Virtual Reality Exposure Therapy) อีกทั้งการใช้เทคโนโลยีชนิดนี้ ยังช่วยลดต้นทุนในการฝึกอบรมได้อีกเช่นกัน
2. ด้านกีฬา (VR in Sport)

การเข้ามาของเทคโนโลยี VR นั้นเปรียบเสมือนการปฏิวัติวงการกีฬาครั้งใหญ่ ทั้งในด้านของตัวนักกีฬา หรือผู้ฝึกสอน ที่จะสามารถทำการจำลองการฝึกได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการดูหรือทดลองทำซ้ำ ๆ เพื่อปรับปรุงวิเคราะห์และพัฒนาประสิทธิภาพเทคนิคการเล่นให้ได้ดีกว่าเดิม อีกทั้งยังใช้เพื่อพัฒนาความสามารถในการคิด ปรับตัวของนักกีฬาเมื่อได้รับบาดเจ็บ เพราะช่วยให้สัมผัสกับสถานการณ์การเล่นที่เสมือนจริง และในด้านของผู้ชม สามารถใช้เพื่อเพิ่มประสบการณ์รับชมการแข่งขันแบบเสมือนเข้าไปนั่งในสเตเดียม (Stadium)จริง ช่วยให้เพลิดเพลินและรับรู้ประสบการณ์เดียวกันได้จากระยะไกลโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายหรือมีค่าใช้จ่ายที่น้อยลง
3. ด้านการรักษาสภาพจิตใจ (VR in Mental Health)

จากที่ได้กล่าวในหัวข้อ ด้านการทหาร ว่าเทคโนโลยี Virtual Reality (VR) ช่วยสามารถรักษาความเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนใจ โดยใช้เทคโนโลยี VR ซึ่งการใช้วิธีนี้ จะช่วยจำลองสถานการณ์ที่เคยเกิดขึ้น ให้ผู้ป่วยพยายามทำใจให้สบายและทำการรักษาให้หายตามขั้นตอนของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อีกทั้งยังใช้เพื่อรักษาอาการวิตกกังวล ความกลัว และภาวะซึมเศร้า เช่น ในผู้ป่วยบางรายที่มีความวิตกกังวลพบว่าการนั่งสมาธิโดยใช้ VR เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพที่ช่วยจัดการ กับปฏิกิริยาต่อความเครียดและเพิ่มความสามารถในการเผชิญหน้าหรือจัดการกับปัญหา การจำลองสภาพแวดล้อมสำหรับผู้ป่วย ในการสัมผัสกับสิ่งที่กลัว ในขณะเดียวกันนั้นต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
4. ด้านการฝึกฝนทางการแพทย์ (VR in Medical Training)

เนื่องจากการฝึกฝนนั้นเป็นการจำลองสถานการณ์จริงขึ้นมา เช่น การผ่าตัด การทำงานผิดปกติของระบบอวัยวะภายในร่างกาย หรือการจำลองคนไข้ที่มีอาการของโรค การใช้เทคโนโลยี Virtual Reality (VR) จึงเป็นการใช้ต้นทุนที่น้อยลง ลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับองค์กร อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นขณะฝึกฝนกับผู้ป่วยจริง ช่วยพัฒนาฝีมือของนักศึกษาแพทย์ด้วยการฝึกและปรับปรุงฝีมือได้อย่างต่อเนื่อง
5. ด้านการศึกษา (VR in Education)

การขยายขอบเขตเทคโนโลยีนั้น ส่งผลดีต่อการเรียนการสอนเป็นอย่างมาก ช่วยให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมหรือได้ศึกษาจากสิ่งแวดล้อมจากการจำลองสภาพแวดล้อมหรือสถานการณ์จริง เช่น การทัวร์ระบบสุริยะแบบเสมือนจริง การย้อนเวลากลับไปในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ เป็นต้น จากการวิจัยพบว่าเทคโนโลยี VR ช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการฝึกทักษะทางต่าง ๆ สำหรับเด็ก ๆ ได้อย่างปลอดภัยรวมไปถึงเด็กที่เป็นโรคออทิสติกสเปกตรัม (ASD: Autistic Spectrum Disorder) ซึ่งบริษัทเทคโนโลยี Floreo ได้พัฒนาเหตุการณ์เสมือนจริงที่ช่วยให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้และฝึกฝนทักษะต่าง ๆ เช่น การชี้ การสบตา และการสร้างทักษะทางสังคม ซึ่งผู้ปกครองสามารถติดตามการฝึกได้โดยใช้แท็บเล็ตที่เชื่อมโยงเข้ากับคอมพิวเตอร์ที่จำลองสถานการณ์จริง
ธุรกิจสามารถนำเทคโนโลยี Virtual Reality (VR) มาปรับใช้ได้อย่างไร ?
จากที่ได้กล่าวมาทั้งหมด จะเห็นได้ว่าการขยายขอบเขตของเทคโนโลยี VR นั้นครอบคลุมในหลากหลายอุตสาหกรรม และมีแนวโน้มที่จะเติบโตยิ่งขึ้นไปอีกในอนาคต โดยธุรกิจสามารถเลือกหยิบข้อดีในส่วนต่าง ๆ มาปรับใช้ให้เข้ากับกลยุทธ์ของแบรนด์ได้ เช่น ธุรกิจเกี่ยวกับสถาบันการศึกษา หรือการกีฬา สามารถใช้ข้อดีของเทคโนโลยีนี้มาโปรโมตเพื่อสร้างความแตกต่างและความน่าสนใจในหลักสูตรการสอนได้ เป็นต้น
สรุป เกี่ยวกับเทคโนโลยี Virtual Reality (VR)
หลากหลายอุตสาหกรรมเริ่มมีการนำ Virtual Reality หรือ VR มาใช้ตั้งแต่ด้านการทหาร ด้านกีฬา ด้านการรักษาสภาพจิตใจ ด้านการฝึกฝนทางการแพทย์ ไปจนถึง ด้านการศึกษา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพใน การเรียนรู้ การลดความเสี่ยงอาจส่งผลต่อชีวิตหรือทรัพย์สิน หรือการลดภาระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ซึ่งหากธุรกิจนำข้อดีเหล่านี้มาปรับใช้ในอุตสาหกรรมของตนนั้น จะเป็นการช่วยยกระดับการดำเนินงานและเพิ่มโอกาสสร้างความโดดเด่นในตลาดได้อีกด้วย
หากธุรกิจใดที่ต้องการเริ่มต้นการขยายธุรกิจด้วยเทคโนโลยี Virtual Tech หรือต้องการจัดทำอีเวนต์ในรูปแบบเสมือน (Virtual Event) ร้านค้าเสมือนจริง (Virtual Store) สามารถติดต่อขอรับคำปรึกษาจาก any i ผ่านช่องทางแชทบนหน้าเว็บไซต์
Email: khem@anyimedia.com
ทาง any i ยินดีให้บริการทุกท่านเสมอ
ที่มา:
www. Techtarget .com
www. Fdmgroup .com
www. Iberdrola .com