5 ไอเดียการใช้จอ Interactive ในงานอีเวนต์ให้โดดเด่นและน่าจดจำ

any i media • April 25, 2025
5 ไอเดียการใช้ จอ Interactive ในงานอีเวนต์ any i


หลายคนอาจเคยเข้าใจว่า "จอ Interactive" คือ จอ Touchscreen ที่ใช้แตะหรือกดเลือกเมนูแบบทั่วไปเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว จอ Interactive เป็นเทคโนโลยีที่ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างประสบการณ์โต้ตอบกับผู้ใช้งานได้หลากหลายและน่าจดจำ


ทั้งในรูปแบบของ Interactive Wall, Interactive Airtouch ไปจนถึงการใช้จอเทคโนโลยี AR แบบเสมือนจริง ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถยกระดับงานอีเวนต์ให้กลายเป็น Talk of the Town ได้ไม่ยาก 


ในบทความนี้ any i ขอพาไปรู้จักกับ 5 ไอเดียการใช้จอ Interactive ที่ช่วยให้บูทของเราโดดเด่น พร้อมเพิ่ม Engagement และความทรงจำดี ๆ ให้กับผู้เข้าร่วมงาน 



ทำความรู้จัก “จอ Interactive” 


จอ Interactive คือ อุปกรณ์แสดงผลที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้มีปฏิสัมพันธ์กับคอนเทนต์แบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะด้วยการสัมผัส การเคลื่อนไหว หรือเทคโนโลยีผสานโลกเสมือนจริงอย่าง AR (Augmented Reality) โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้าง “ประสบการณ์ร่วม” ที่ทั้งดึงดูดและจดจำง่ายกว่าเดิม 


ซึ่งในยุคที่การนำเสนอข้อมูลเพียงอย่างเดียวอาจไม่พออีกต่อไป จึงต้องมีการเพิ่ม ‘ความรู้สึก’  และ ‘เรื่องราวที่จดจำได้’ เพื่อสร้างการรับรู้ให้แก่ผู้บริโภค ดังนั้น การใช้จอ Interactive จึงกลายเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ทรงพลังในงานอีเวนต์ เนื่องจากทำให้ผู้ร่วมงานกลายเป็น “ส่วนหนึ่งของแบรนด์” ไม่ใช่แค่ผู้ชมภายนอกอีกต่อไป 


ประเภทของจอ Interactive ที่นิยมใช้งานในอีเวนต์ 


1. จอ Interactive แบบ Touchscreen (Kiosk) 


จอ Interactive Touchscreen (Kiosk) any i


จอ Touchscreen หรือ Kiosk คือ จอที่ผู้ใช้งานสามารถกด แตะ เลื่อน หรือพิมพ์ข้อความได้ทันที เหมาะสำหรับการใช้งานในจุดเริ่มต้นของกิจกรรม เช่น ลงทะเบียน ตรวจสอบสิทธิ์ หรือให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการ 


แม้จะเป็นรูปแบบพื้นฐานที่สุดของจอ Interactive แต่ Kiosk ยังคงเป็นหัวใจสำคัญในทุกอีเวนต์ เพราะเป็นจุดแรกที่ผู้เข้าร่วมมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ โดยเฉพาะในงานที่ต้องการการเก็บข้อมูลลูกค้า การเชื่อมโยงไปยังแอปพลิเคชัน CRM หรือการนำเสนอข้อมูลสินค้าแบบเข้าใจง่าย 


ในอีกหลายกรณี Kiosk ยังใช้ในรูปแบบจอสัมผัสที่มีเกมหรือกิจกรรมดึงดูดใจ เช่น การสุ่มรับของรางวัลหลังลงทะเบียน หรือการตอบคำถามเพื่อรับคูปองดิจิทัล ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถควบคุมผ่านระบบที่อัปเดตเนื้อหาได้ทันที 


ตัวอย่างการใช้งาน 

  • ใช้ใน Registration Zone เพื่อให้ผู้ร่วมงานลงทะเบียนด้วยตนเองได้อย่างรวดเร็ว 
  • ใช้ในบูทสินค้าให้ผู้ใช้งานเลือกชมผลิตภัณฑ์ เปรียบเทียบราคา หรือกรอกฟอร์มขอข้อมูล 
  • เพิ่มเกมตอบคำถามเพื่อรับของที่ระลึก เช่น Spin the Wheel, Quiz Challenge 


ข้อดี 

  • ใช้งานง่าย เข้าใจได้ทันที ไม่ต้องอธิบายมาก 
  • เก็บข้อมูลลูกค้าได้อย่างเป็นระบบ พร้อม Export เป็นไฟล์ Excel หรือส่งเข้าระบบ CRM 
  • เป็นการเริ่มสร้าง Engagement ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าสู่งาน 


2. จอ Interactive แบบ Interactive Wall 


เทคโนโลยี จอ Interactive Wall จาก any i


Interactive Wall คือ การใช้ผนังแสดงผลเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ชมกับเนื้อหาบนจอ โดยไม่จำเป็นต้องใช้การสัมผัสเพียงอย่างเดียว แต่สามารถผสานเทคโนโลยีอื่น ๆ เช่น Motion Sensor และระบบเสียง เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ลึกซึ้งและน่าจดจำยิ่งกว่าเดิม 


ตัวอย่างการใช้งาน จอ Interactive แบบ Wall

  • ผสานงานศิลปะและดนตรี เช่น การทำ Graffiti ดิจิทัลที่สร้างเสียงดนตรีจากการเคลื่อนไหวของผู้ใช้งาน 
  • ให้ผู้ร่วมงานเต้นหรือเคลื่อนไหวร่างกายต่อหน้าผนัง เพื่อให้เกิดภาพหรือเสียงในแบบเฉพาะของตัวเอง 
  • ใช้เป็น Interactive Backdrop สำหรับกิจกรรมโชว์ตัวศิลปินหรือเวิร์กช็อป 


ข้อดี 

  • กระตุ้นการมีส่วนร่วมแบบ Active ผ่านการเคลื่อนไหว ไม่ใช่แค่สัมผัส 
  • ผสานศิลปะ ดนตรี และเทคโนโลยีเข้าไว้ในพื้นที่เดียว สร้างประสบการณ์แบบ Immersive 
  • สร้าง Wow Effect และกระตุ้นการถ่ายภาพ หรือวิดีโอ แชร์ต่อบนโซเชียลได้ง่าย 


3. Interactive Airtouch จอ Interactive แบบเคลื่อนไหวทางอากาศ


เทคโนโลยี จอ Interactive Airtouch any i


Interactive Airtouch คือ เทคโนโลยีที่ให้ผู้ใช้งานสั่งงานผ่านท่าทางในอากาศ โดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอโดยตรง เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่สาธารณะ งานที่มีคนพลุกพล่าน หรือในกลุ่มที่ต้องการลดการสัมผัสเพื่อความสะอาด เช่น โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า หรือสนามบิน 


เทคโนโลยี Airtouch มักใช้เซนเซอร์อินฟราเรดหรือกล้อง 3D เพื่อตรวจจับและแปลความหมายท่าทางของผู้ใช้งาน โดยสามารถแยกแยะระหว่างการแตะ การปัด หรือการขยับนิ้ว แม้ว่าจะอยู่ห่างจากหน้าจอได้ถึง 10-20 เซนติเมตร ซึ่งให้ความรู้สึกราวกับกำลังควบคุมอุปกรณ์ด้วยพลังพิเศษ


ตัวอย่างการใช้งาน 

  • สร้างกิจกรรม Virtual Product Showcase ที่ผู้ใช้สามารถหมุน ขยาย หรือสำรวจผลิตภัณฑ์แบบ 360 องศาโดยไม่ต้องสัมผัส 
  • จัดทำ Virtual Fitting Room ให้ผู้ร่วมงานลองสินค้าแบบเสมือนจริงโดยใช้ท่าทางควบคุม 
  • สร้างเกมที่ใช้การเคลื่อนไหวมือและร่างกายในอากาศ เช่น การตีวัตถุเสมือน หรือการเลือกตำแหน่งบนแผนที่ 


ข้อดี 

  • สร้างความประทับใจด้วยประสบการณ์แปลกใหม่ที่ไม่เหมือนใคร 
  • เหมาะกับยุค New Normal ที่ผู้คนระมัดระวังเรื่องการสัมผัสพื้นผิวสาธารณะ 
  • ดึงดูดความสนใจได้ดีเพราะรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างจากอุปกรณ์ทั่วไป 


4. Interactive AR (Augmented Reality)

 

จอ Interactive AR (Augmented Reality)


เทคโนโลยี AR หรือ Augmented Reality คือการผสานโลกจริงเข้ากับโลกเสมือนผ่านหน้าจอหรืออุปกรณ์ เช่น แว่น AR หรือ จอ Interactive AR Wall ซึ่งเพิ่มมิติและความน่าสนใจให้กับการนำเสนอข้อมูล สินค้า หรือประสบการณ์แบรนด์ได้อย่างมหาศาล 


ในงานอีเวนต์ จอ Interactive AR สามารถสร้างประสบการณ์แบบ "มหัศจรรย์" ที่ทำให้ผู้เข้าร่วมงานได้เห็นสิ่งที่เกินกว่าความเป็นจริง เช่น การมองเห็นภาพเคลื่อนไหว 3 มิติลอยออกมาจากสื่อสิ่งพิมพ์ หรือการได้เห็นสินค้าที่ยังไม่เปิดตัวปรากฏตัวขึ้นบนพื้นที่จริง 


ตัวอย่างการใช้งาน 

  • สร้าง AR Photo Booth ที่ผู้ร่วมงานสามารถถ่ายรูปกับตัวละครหรือองค์ประกอบเสมือนที่เชื่อมโยงกับแบรนด์ 
  • จัดทำ Product Visualization ที่แสดงคุณสมบัติพิเศษหรือกลไกภายในของสินค้าที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า 
  • ออกแบบเกมหรือกิจกรรมที่ผู้เล่นต้องค้นหาวัตถุ AR ที่ซ่อนอยู่ในพื้นที่จริงของงาน 


ข้อดี 

  • สร้างความประทับใจและความจดจำแบรนด์ในระดับสูง 
  • นำเสนอข้อมูลที่ซับซ้อนให้เข้าใจได้ง่ายผ่านภาพเสมือน 3 มิติ 
  • กระตุ้นการแชร์ประสบการณ์บนโซเชียลมีเดียได้อย่างมีประสิทธิภาพ 


5. Interactive Floor/Table Projection 


จอ Interactive Floor or Table Projection


จอ Interactive แบบ Floor Projection หรือ Table Projection คือการฉายภาพลงบนพื้นหรือโต๊ะ และให้ผู้ใช้มีปฏิสัมพันธ์กับภาพที่ฉายนั้นได้ โดยใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว ทำให้พื้นที่ธรรมดากลายเป็นพื้นที่ Interactive ขนาดใหญ่ได้ทันที 


เทคโนโลยีนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการสร้างกิจกรรมกลุ่มหรือการนำเสนอที่ต้องการให้ผู้ชมหลายคนมีส่วนร่วมพร้อมกัน โดยไม่จำกัดว่าต้องมีอุปกรณ์เฉพาะ 


ตัวอย่างการใช้งาน 

  • สร้างพื้นที่เล่นเกมแบบ Multi-player เช่น เกมฟุตบอลเสมือน หรือเกมตอบคำถามที่ผู้เล่นต้องเหยียบคำตอบที่ถูกต้อง 
  • จัดทำโต๊ะ Interactive ที่แสดงข้อมูลสินค้าเมื่อวางโมเดลหรือตัวอย่างผลิตภัณฑ์จริงลงบนโต๊ะ 
  • ออกแบบ Interactive Path ที่เปลี่ยนแปลงตามทิศทางการเดินของผู้ร่วมงาน เช่น พื้นที่เปลี่ยนสีหรือแสดงข้อมูลตามตำแหน่งที่ผู้ใช้ยืนอยู่ 


ข้อดี 

  • รองรับผู้ใช้งานได้พร้อมกันหลายคน เหมาะกับกิจกรรมกลุ่มใหญ่ 
  • สร้างประสบการณ์ร่วมที่กระตุ้นการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เข้าร่วมงาน 
  • ปรับเปลี่ยนธีมหรือเนื้อหาได้ง่ายด้วยการเปลี่ยนโปรแกรมที่ฉาย โดยไม่ต้องติดตั้งอุปกรณ์ใหม่ 



5 ไอเดียการใช้จอ Interactive ในงานอีเวนต์


5 ไอเดียการใช้จอ Interactive ในงานอีเวนต์ any i


1. จอ Interactive Wall กับการวาดภาพด้วยร่างกาย 

มีการใช้จอ Interactive Wall ที่เชื่อมต่อกับระบบเซนเซอร์จับการเคลื่อนไหว เมื่อคนดูขยับแขนหรือเดินผ่าน หน้าจอก็จะแสดงลวดลายภาพวาดกราฟฟิตี้ หรือคลื่นสีตามร่างกายที่ขยับ พร้อมมีเสียงดนตรีเล่นประกอบตามจังหวะการเคลื่อนไหว ทำให้ผู้เข้าชมรู้สึกเหมือนได้ร่วมสร้างสรรค์งานศิลปะด้วยตัวเอง ไม่ใช่แค่ยืนดูเฉย ๆ ความรู้สึกนี้เองที่ทำให้คนอยากอยู่ตรงนั้นนานขึ้น และยังช่วยให้เกิดการถ่ายภาพหรือวิดีโอเพื่อแชร์ต่อบนโซเชียลได้ง่ายมาก 


2. จอ AR สำหรับถ่ายภาพแบบเสมือนจริง 

อีกหนึ่งไอเดียน่าสนใจคือการใช้เทคโนโลยี AR (Augmented Reality) ผสานกับจอ Interactive เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสามารถถ่ายภาพคู่กับตัวละครหรือฉากเสมือนที่ลอยขึ้นมาจากจอ เช่น เมื่อยืนอยู่หน้าจอ ก็จะเห็นตัวการ์ตูนหรือมาสคอตเสมือนยืนข้าง ๆ ตนเองทันที ผ่านกล้องของแท็บเล็ตหรือหน้าจอขนาดใหญ่ จุดเด่นของไอเดียนี้คือผู้ชมสามารถมี “ภาพถ่ายไม่เหมือนใคร” ที่ดูน่ารัก น่าตื่นเต้น และพร้อมแชร์บนโซเชียลได้ทันที กลายเป็นกิจกรรมที่มีคนต่อคิวเล่นอย่างต่อเนื่องทั้งวัน 


3. จอ Airtouch ควบคุมด้วยมือในอากาศ 

ในงานที่ต้องการลดการสัมผัสโดยตรง เช่น ช่วงโรคระบาด หรือพื้นที่ที่มีคนแน่น ๆ การใช้จอ Airtouch เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์มาก เพราะไม่ต้องแตะจอก็สามารถควบคุมเนื้อหาได้ ผู้ใช้งานแค่ขยับมือในอากาศเพื่อเลื่อนหมุน ซูม หรือเปลี่ยนมุมมองของผลิตภัณฑ์ เช่น หมุนดูโมเดลสินค้าแบบ 360 องศา จอแบบนี้เหมาะกับสินค้าที่มีรายละเอียดเยอะ หรือของที่ไม่สามารถนำมาโชว์จริงได้ เช่น เครื่องจักรขนาดใหญ่ หรือสินค้าไฮเทคที่ต้องอธิบายด้วยภาพ 3 มิติ 


4. จอ Interactive บนพื้น สำหรับเกมแบบกลุ่ม 

บางงานสามารถเลือกใช้พื้นที่ธรรมดาอย่าง “พื้นทางเดิน” มาเปลี่ยนเป็นพื้นที่เล่นเกมได้ ด้วยการใช้โปรเจกเตอร์ฉายภาพและเซนเซอร์ตรวจจับเท้า เมื่อมีคนเดินผ่านหรือเหยียบ พื้นก็จะตอบสนองทันที เช่น แสดงสี เปลี่ยนฉาก หรือให้คะแนน เหมาะมากสำหรับกลุ่มเด็ก ครอบครัว หรือแม้แต่งานเปิดตัวที่อยากให้คนมีส่วนร่วมพร้อมกันหลาย ๆ คน ฟีเจอร์นี้ช่วยเพิ่มเวลาเฉลี่ยที่คนอยู่นานขึ้น และสร้างความสนุกแบบเรียลไทม์ในพื้นที่จำกัดได้ดีมาก 


5. จอ Touchscreen สำหรับลงทะเบียนและลุ้นรางวัล 

สุดท้ายคือการใช้จอ Touchscreen หรือ Kiosk แบบที่เห็นกันบ่อยในจุดลงทะเบียน แต่นำมาใส่ลูกเล่นเพิ่มเติม เช่น ลงทะเบียนแล้วได้สิทธิเข้าร่วมเกมหมุนวงล้อ รับของรางวัล หรือเล่น Quiz ตอบคำถามสนุก ๆ เพื่อสะสมแต้ม สิ่งนี้นอกจากจะช่วยเก็บข้อมูลผู้ร่วมงานอย่างเป็นระบบแล้ว ยังช่วยให้คนเริ่มต้นมีประสบการณ์ที่ดีตั้งแต่ก้าวแรกที่มาถึงงาน เพิ่มอัตราการเข้าร่วมกิจกรรมอื่น ๆ ได้แบบน่าสนใจ 


คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับ จอ Interactive

Q: งบประมาณสำหรับจอ Interactive ควรเริ่มต้นที่เท่าไหร่?

A: ปัจจุบันราคาของจอ Interactive มีความหลากหลายขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ขนาดจอ ประเภทของเทคโนโลยี และ ความซับซ้อนของเนื้อหาที่ใช้

ดังนั้น แนะนำให้ปรึกษาผู้ให้บริการเพื่อประเมินความต้องการและเลือกแพ็กเกจที่เหมาะสมกับงบประมาณของงาน


Q: ธุรกิจสามารถวัดผลความสำเร็จจากการใช้จอ Interactive ได้อย่างไร?

A: การวัดผลไม่ได้จำกัดแค่ยอดไลก์หรือยอดแชร์บนโซเชียลมีเดีย แต่ยังสามารถวัดได้หลายวิธี เช่น จำนวนผู้ใช้งาน (User Engagement), ระยะเวลาเฉลี่ยในการใช้งาน (Dwell Time) และ ข้อมูลของผู้ใช้งาน (Data Collection) ที่ตัวเครื่องมีการเก็บข้อมูลลูกค้าจากความยินยอม เช่น ชื่อ, เบอร์โทรศัพท์, หรืออีเมล เพื่อนำไปต่อยอดทางการตลาด


Q: สามารถนำจอ Interactive ไปใช้กับธุรกิจอื่นๆ นอกจากงานอีเวนต์ได้ไหม?

A: ได้ โดยจอ Interactive จาก any i สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย ตัวอย่างเช่น

  1. ธุรกิจค้าปลีก: ใช้เป็น Interactive AR ให้ลูกค้าลองเสื้อผ้าแบบเสมือนจริง หรือเป็นจอแสดงสินค้าที่ลูกค้าสามารถหมุนดูได้ 360 องศา
  2. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์: ใช้เป็น Interactive Table ที่แสดงโมเดลอาคารแบบ 3 มิติ หรือเป็น Virtual Tour ให้ลูกค้าเดินชมห้องตัวอย่างได้จากจอ
  3. ธุรกิจการศึกษา: ใช้เป็น Interactive Wall ในห้องเรียนเพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของนักเรียน หรือเป็นเกมตอบคำถามที่สนุกและได้ความรู้


สรุป 

การใช้ จอ Interactive  ในงานอีเวนต์ไม่ใช่เพียงแค่การเพิ่มลูกเล่นทางเทคโนโลยี แต่คือการสร้าง “ประสบการณ์ร่วม” ที่ดึงดูดผู้เข้าร่วมงานให้มีส่วนร่วมกับแบรนด์อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการให้ข้อมูลที่เข้าใจง่าย การนำเสนอผลิตภัณฑ์ในรูปแบบเสมือนจริง การสร้างกิจกรรมที่กระตุ้นการเคลื่อนไหว หรือแม้แต่การสร้างสื่อสังคมจากประสบการณ์ที่ผู้ชมอยากแชร์ต่อเอง 


ดังนั้น สำหรับผู้จัดงานหรือเจ้าของแบรนด์ที่ต้องการสร้างความแตกต่าง พร้อมเพิ่มคุณค่าทางแบรนด์และความประทับใจให้กับผู้เข้าร่วมงาน การลงทุนใน จอ Interactive คือทางเลือกที่ทั้งตอบโจทย์และคุ้มค่าในระยะยาว 



ที่มา

Benefits and roles played by interactive screens in various events จาก Creativity Experts




หากคุณกำลังมองหา "จอ Interactive” ที่ครบ จบ พร้อมใช้งาน อย่าพลาดที่จะเลือกใช้เครื่องมือดี ๆ จาก any i ที่พร้อมเป็นพาร์ตเนอร์ในการสร้างความสำเร็จในทุกงานของคุณ! 


สำหรับนักจัดอีเวนต์ Organizer หรือ ธุรกิจใดที่ต้องการนำเทคโนโลยี “จอ Interactive” ไปใช้ในงานอีเวนต์ สามารถติดต่อขอรับคำปรึกษาจาก any i ผ่านช่องทางแชตบนหน้าเว็บไซต์   

ช่องทางการติดต่ออื่น ๆ 

Email: contact@anyimedia.com 

LINE Official: @anyi   

เบอร์โทรศัพท์: 061-023-7370   

ทาง any i ยินดีให้บริการทุกท่านเสมอ 



AI Drawing Technology สอนสนุกเสกภาพ AI สุดว้าวได้ทันที any i
By any i media August 22, 2025
เปลี่ยนห้องเรียนธรรมดาให้ล้ำกว่าที่เคยด้วย AI Drawing Technology เสกภาพสุดว้าว ที่ช่วยให้การเรียนรู้สนุกขึ้นทันที
Photo Booth VIP ตู้ถ่ายรูป AI ที่ Say Cheese กับใครก็ได้ any i
By any i media July 25, 2025
VIP โฟโต้บูธ ยกระดับประสบการณ์งานอีเวนต์ให้ไม่เหมือนใคร เพื่อสร้างไวรัลและเป็นที่จดจำที่เหล่า Organizer ห้ามพลาด
จัดงานสัมมนาให้ปัง เปิดโผ! 5 เทคโนโลยีอีเวนต์ตัว Top ที่พิสูจน์แล้วว่าเวิร์ก any i
By any i media June 27, 2025
จัดสัมมนาให้ปังด้วย 5 เทคโนโลยีอีเวนต์สุดล้ำ สร้าง Engagement และเสริมภาพลักษณ์ธุรกิจให้โดดเด่น
Show More