​สำรวจทิศทางของเทรนด์ Event​ ในปี 2023 ที่นักจัดงานไม่ควรพลาด ​

เทรนด์ Event ปี 2023 เป็นอีกเรื่องสำคัญสำหรับนักจัดงานหรือนักการตลาดที่กำลังมองหากลยุทธ์ใหม่ ๆ เข้ามาช่วยเสริมงานอีเวนต์ให้โดดเด่นและน่าสนใจ เพราะการรู้แนวโน้มหรือทิศทางของทั้งผู้บริโภคและธุรกิจ ว่าในอนาคตจะดำเนินไปอย่างไร จะช่วยให้สามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันได้ 



วันนี้ any i จึงนำข้อมูลเกี่ยวกับการสำรวจทิศทางของเทรนด์ Event ในปี 2023 ที่นักจัดงานไม่ควรพลาด มาฝากทุกคนกัน 

เทรนด์การจัดอีเวนต์ปี 2023 

ทิศทางการจัดอีเวนต์ในช่วงปีหน้านี้ เกิดจากการวิจัยของบริษัทจัดอีเวนต์หรือธุรกิจต่าง ๆ ซึ่งจะมาวิเคราะห์แนวโน้มของการจัดงานที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งจะช่วยให้หลายธุรกิจสามารถวางแผนหรือคาดการณ์สิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และนำมาปรับใช้ให้สอดคล้องกับการวางแผนกิจกรรมเพื่อดึงดูดผู้เข้าร่วมงานได้ 

1. การกลับมาของอีเวนต์แบบตัวต่อตัว (In-Person Event) 

หลังจากการคลี่คลายมาตรการ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ทำให้แนวโน้มการกลับมาของอีเวนต์แบบตัวต่อตัว หรือการจัด Event Offline จะกลายเป็นตัวเลือกแรก ๆ ของนักการตลาดหรือนักจัดกิจกรรม รายงานจาก DisplayWizard ผู้ผลิตแท่นวางสินค้าจากประเทศอังกฤษ เผย 95% ของนักจัดแสดงสินค้ากล่าวว่า พวกเขาชอบการจัดงานแบบตัวต่อตัวเป็นอย่างมาก ซึ่งในปี 2023 นี้การจัดงานแบบ In-Person จะกลายเป็นเรื่องสำคัญสำหรับธุรกิจ โดยอ้างอิงจาก Meeting & Group Business Magazine บริษัทนิตยาสารการจัดอีเวนต์ชื่อดัง คาดการณ์ว่าปีหน้า การแข่งขันการจัดอีเวนต์แบบตัวต่อตัว จะมีความดุเดือดเป็นอย่างมาก อีกทั้ง 2023 AMEX Global Event Trends Forecast รายงานการคาดการณ์จากบริษัทการท่องเที่ยว พบว่า ในปีหน้าควรมุ่งเน้นไปที่ การปรับปรุงประสิทธิภาพ (Optimize) และ โฟกัสที่การประชุมหรือการจัดกิจกรรมแบบตัวต่อตัวให้มากขึ้น   

2. ประสบการณ์ของผู้เข้าร่วมงานต้องมาก่อน (Experience-First)

หนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญของการจัดอีเวนต์ให้บรรลุเป้าหมายนั้น คือการสร้างประสบการณ์การเข้าร่วมงานจริงให้แก่ผู้เข้าชม เช่น การเลือกชมสินค้าได้ด้วยตนเอง หรือการเพิ่มประสบการณ์การเข้าร่วมงานด้วยการใช้เทคโนโลยี Interactive ที่สามารถโต้ตอบระหว่างการทำกิจกรรมต่าง ๆ กับผู้ชมได้ ก็จะช่วยให้ผู้เข้าร่วมงานนั้นรู้สึกสนุกสนานมีส่วนร่วมไปกับกิจกรรมมากขึ้น

3. การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในงานอีเวนต์ 

การใช้เทคโนโลยี Interactive ภายในงานอีเวนต์
วิดีโอจาก any i 

การจัดอีเวนต์แบบเดิมอาจไม่ช่วยให้ดึงดูดความสนใจหรือสร้างการมีส่วนร่วมได้ดีมากนัก การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้จะสามารถช่วยให้กิจกรรมของธุรกิจมีความโดดเด่น และสร้างความสนุกสนานน่าสนใจมากขึ้นได้ เช่น การใช้เทคโนโลยี AR (Augmented Reality) เช่น การให้ผู้เข้าร่วมงานสแกน QR Code เพื่อดูภาพ 3 มิติ, เทคโนโลยี VR (Virtual Reality) การจำลองสถานการณ์จริงต่าง ๆ และดูผ่าน VR Headset หรือ Interactive ไม่ว่าจะเป็น Interactive Screen, Interactive Wall หรือ Smart Translator เป็นต้น ซึ่งธุรกิจสามารถสอดแทรกข้อมูลสินค้า และ บริการ ผ่านสิ่งเหล่านี้ เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมและสร้างภาพลักษณ์ให้ธุรกิจโดดเด่นขึ้นได้

4. กิจกรรมภายในงานมีความสนุกสนานสามารถดึงดูดผู้เข้าร่วมงานได้ (Content-Rich) 

การใช้เทคโนโลยี Interactive ภายในงานอีเวนต์  
วิดีโอจาก any i 

ในอนาคตที่การแข่งขันการจัดอีเวนต์เพิ่มขึ้น การสร้างความสนุกสนานของกิจกรรมจึงเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของนักการตลาดที่จะต้องหากิจกรรมให้ผู้เข้าร่วมรู้สึกสนุกไปตลอดระยะเวลาของงาน อีกทั้งยังสามารถดึงดูดผู้ที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายให้สนใจในงานได้ ยกตัวอย่างเช่น การนำ Gamification เป็นการนำหลักการของเกมมาประยุกต์ใช้ในกลยุทธ์การจัดกิจกรรมเข้ามาช่วยเสริมให้อีเวนต์มีความน่าสนใจและสร้างการมีส่วนร่วมให้กับผู้เข้าร่วมงานได้ 



5. การจัดอีเวนต์ที่คำนึงถึงความยั่งยืนของสภาพแวดล้อม

ภาพจาก www.gathercapture.com 

เนื่องจากแนวโน้มของผู้บริโภคในปี 2023 ความยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม เป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า และ บริการ ดังนั้นจึงเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจที่ควรหันมาสนใจในเรื่องของสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ตั้งแต่การเลือกใช้สถานที่จัดงาน ผู้ผลิตสินค้า ที่ส่งผลกระทบต่อธรรมชาติน้อยที่สุดจะเป็นผลดีต่อโลก ซึ่งจะทำให้ผู้คนรู้สึกสนใจต่อทัศนคติของธุรกิจ เนื่องจากเทรนด์ผู้บริโภคปี 2023 ที่จะเลือกใช้สินค้า และ บริการ ของธุรกิจที่ให้ความสำคัญด้านความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม มากกว่าชื่อเสียงของแบรนด์ ดังนั้นหากธุรกิจทำการปรับตัวในด้านนี้เพิ่มขึ้น อาจช่วยเสริมความโดดเด่นและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีได้ 

สรุป

ในปี 2023 การจัดอีเวนต์แบบตัวต่อตัว อาจมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ท้าท้ายสำหรับธุรกิจและนักจัดอีเวนต์ ที่จะต้องหากิจกรรมหรือการสร้างประสบการณ์รูปแบบใหม่ ๆ เช่นการนำเทคโนโลยี Interactive, เทคโนโลยี AR (Augmented Reality), เทคโนโลยี VR (Virtual Reality) มาใช้ ให้ผู้เข้าร่วมได้รู้สึกสนุกสนานและมีปฏิสัมพันธ์กับธุรกิจ นอกจากนี้การจัดอีเวนต์ยังควรคำนึงถึงความยั่งยืนของสภาพแวดล้อมหรือธรรมชาติ ที่อาจนำไปสู่การตัดสินใจของผู้เข้าร่วมงาน 
 
หากธุรกิจใดที่ต้องการเริ่มต้นการขยายธุรกิจด้วยเทคโนโลยี Virtual Tech หรือต้องการจัดทำอีเวนต์ในรูปแบบเสมือน (Virtual Event) ร้านค้าเสมือนจริง (Virtual Store) สามารถติดต่อขอรับคำปรึกษาจาก any i ผ่านช่องทางแชทบนหน้าเว็บไซต์
Email: khem@anyimedia.com
ทาง any i ยินดีให้บริการทุกท่านเสมอ 

ที่มา
www. Gathercapture .com
www. Bizbash .com
www. Tintup .com